การจัดฟันรอบสอง หรือ การจัดฟันซ้ำ หมายถึงการเข้ารับการจัดฟันใหม่อีกครั้งหลังจากที่เคยจัดฟันไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ฟันเกิดการเคลื่อนที่หรือมีปัญหาการสบฟันที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขสมบูรณ์
คุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้หรือไม่?
ขี้เกียจใส่รีเทนเนอร์ ทำให้ฟันเคลื่อนที่กลับมาอยู่ผิดตำแหน่ง
เคยจัดฟันมาแล้ว จัดใหม่ เพราะฟันล้ม
เคยจัดฟันมาแล้ว จัดใหม่ เพราะฟันหน้างุ้ม
จัดฟันแบบถอนฟันมาแล้ว แต่หน้ายังอูมอยู่
ต้องการแก้ไขเพิ่มเติม เช่น การปรับรูปหน้า การสบฟัน หรือความสมมาตรของรอยยิ้ม
หากคุณกำลังมองหา จัดฟันรอบสอง ราคาไม่แพง จัดฟันรอบสอง ค่าใช้จ่าย คุ้มค่า หรือ จัดฟันรอบสอง แบบไหนดี ที่เหมาะกับปัญหาฟันของคุณ ลองอ่านบทความนี้เพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดฟันซ้ำ ซึ่งตัวเลือกมีหลากหลาย สามารถเลือกได้ทั้ง จัดฟันรอบสอง แบบใส หรือจัดฟันแบบโลหะ
ปรึกษาทันตแพทย์เพื่อวางแผน จัดฟันรอบสอง ราคาถูก และรับคำแนะนำเกี่ยวกับระยะเวลา จัดฟันรอบสอง กี่เดือน ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ฟันสามารถเคลื่อนที่ได้ตลอดชีวิต แม้หลังจากการจัดฟันแล้ว หากไม่มีการคงสภาพฟันอย่างเหมาะสม ฟันอาจเคลื่อนกลับไปใกล้เคียงตำแหน่งเดิม สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่
ไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำ หรือใส่ไม่สม่ำเสมอ
แรงกดจากลิ้น หรือการบดเคี้ยวผิดปกติ
มีฟันคุดดันฟันขยับ ส่งผลให้ฟันเคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิม
การจัดฟันรอบสองช่วยปรับตำแหน่งฟันที่เคลื่อนที่ และป้องกันปัญหาการเคลื่อนตัวเพิ่มเติมในอนาคต
บางครั้งแม้การจัดฟันรอบแรกจะช่วยเรียงฟันให้สวยงามขึ้น แต่ การสบฟันอาจยังไม่สมบูรณ์ ปัญหาที่พบบ่อยๆได้แก่
ฟันอูมอยู่ เพราะฟันหน้ายังอยู่ด้านหน้าเกินไป รอบที่แล้วไม่มีการถอนฟัน
เคยถอนฟันแล้ว แต่ฟันก็อูมอยู่ กรณีนี้ถ้าจัดฟันรอบสองอาจต้องมีการใช้หมุดจัดฟันร่วมด้วย
เคสถอนฟันแล้วฟันงุ้ม เนื่องจากฟันหน้าบนถูกดึงเข้าไปด้านในเยอะเกินไป
ฟันหลังสบเปิด (posterior open bite) ฟันหลังไม่สบกัน แม้จัดฟันเสร็จแล้ว มักพบในการจัดฟันใส
การจัดฟันรอบสองช่วยปรับการสบฟันให้ดีขึ้น ลดปัญหาการเคี้ยวอาหารไม่เต็มประสิทธิภาพ
แม้ว่าการจัดฟันรอบแรกอาจช่วยแก้ไขฟันซ้อนเก หรือปัญหาฟันล้มไปแล้ว แต่บางคนอาจต้องการ ปรับปรุงรอยยิ้มให้ดียิ่งขึ้นเช่น
ต้องการ ให้ฟันเรียงตัวสมบูรณ์กว่าที่เป็นอยู่
ต้องการให้ฟันอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับโครงหน้า
ปรับปรุงความสมดุลของริมฝีปากและแนวฟัน
นอกจากนี้ การจัดฟันรอบสองยังช่วย ลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันผุ เหงือกร่น หรือการสะสมของคราบแบคทีเรียที่อาจทำให้เกิดโรคเหงือกในอนาคต
บางคนอาจต้องยุติการจัดฟันก่อนกำหนด เนื่องจาก
ย้ายที่อยู่ เปลี่ยนคลินิก หรือมีเหตุจำเป็นด้านการเงิน
ปัญหาสุขภาพบางประการที่ทำให้ต้องหยุดการรักษาชั่วคราว
การรักษารอบแรกไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้
หากเคยจัดฟันแต่ต้องหยุดกลางคัน การจัดฟันรอบสองเป็นโอกาสในการแก้ไขปัญหาเดิม และทำให้ผลลัพธ์ของการจัดฟันสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
การจัดฟันรอบสองต้องผ่านการตรวจประเมินอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถแก้ไขปัญหาฟันเคลื่อนหรือปัญหาการสบฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการนี้คล้ายกับการจัดฟันรอบแรก แต่จะเน้นที่การวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้ฟันเคลื่อนและเลือกวิธีแก้ไขที่เหมาะสมที่สุด
กระบวนการจัดฟันรอบสองเริ่มต้นจากการ ตรวจประเมินโดยทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน เพื่อตรวจสอบสภาพฟันและเหงือก พร้อมระบุสาเหตุที่ทำให้ฟันเคลื่อน
ทำประวัติก่อนการรักษา ประกอบด้วย
สแกนหรือพิมพ์ฟัน เพื่อดูโครงสร้างของฟันและขากรรไกร
เอกซเรย์ช่องปาก เพื่อดูตำแหน่งรากฟันและขากรรไกร
ถ่ายภาพ ทั้งใบหน้า และภาพฟัน
วางแผนการรักษา โดยเลือกเครื่องมือจัดฟันที่เหมาะสมกับปัญหาของผู้ป่วย
เครื่องมือที่ใช้ในการจัดฟันรอบสองขึ้นอยู่กับ ระดับของปัญหาฟันเคลื่อน และ ความต้องการของผู้ป่วย จัดฟันใส หรือ จัดฟันโลหะ
หลังจากติดเครื่องมือจัดฟันเรียบร้อยแล้ว ผู้เข้ารับการรักษาจะต้อง พบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจสอบการเคลื่อนของฟันและปรับเครื่องมือ
จัดฟันใส
เปลี่ยนถาดจัดฟันทุก 1-2 สัปดาห์
เข้าพบทันตแพทย์ทุก 4-6 สัปดาห์เพื่อตรวจสอบการเคลื่อนของฟัน
ใส่ถาดจัดฟัน วันละ 20-22 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น
พบทันตแพทย์ทุก 4 สัปดาห์เพื่อติดตามผลและปรับลวดจัดฟัน
ระมัดระวังเรื่องอาหารที่แข็งและเหนียวเพื่อลดโอกาสที่เครื่องมือจะเสียหาย
ดูแลความสะอาดเป็นพิเศษเพื่อป้องกันฟันผุและคราบหินปูนสะสม
การจัดฟันรอบสองมีหลายทางเลือกขึ้นอยู่กับ ระดับของปัญหาฟันเคลื่อน และ ความต้องการของผู้เข้ารับการรักษาทันตแพทย์จะช่วยแนะนำเครื่องมือที่เหมาะสมกับสภาพฟันและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
การจัดฟันแบบโลหะ (Metal Braces) เป็นเครื่องมือจัดฟันที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมทิศทางการเคลื่อนของฟัน เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาฟันเคลื่อนที่รุนแรง ฟันซ้อนเก หรือปัญหาการสบฟันที่ซับซ้อน
มีประสิทธิภาพสูงในการแก้ไขปัญหาฟันเคลื่อนระดับมาก
ควบคุมการเคลื่อนของฟันได้แม่นยำ
ค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการจัดฟันแบบใส
มองเห็นเครื่องมือชัดเจน
ต้องเข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อปรับลวดจัดฟัน
ต้องดูแลความสะอาดเป็นพิเศษเพื่อลดคราบจุลินทรีย์
จัดฟันรอบสอง จัดฟันใส (เช่น Invisalign, Spark, Clearcorrect, CA clear aligner) เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะสามารถถอดออกได้ สะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และมองแทบไม่เห็นเครื่องมือ ส่วนมากคนที่จัดฟันรอบสองมักเป็นวัยผู้ใหญ่ที่เคยจัดฟันแบบเหล็กแล้ว แต่ไม่อยากกลับไปติดเหล็กอีก ดังนั้นการจัดฟันใสจึงเป็นทางเลือกที่ดี
แทบมองไม่เห็นเครื่องมือ ช่วยเพิ่มความมั่นใจ
ถอดออกได้ ทำให้รับประทานอาหารและทำความสะอาดฟันได้ง่าย
ลดโอกาสเกิดคราบจุลินทรีย์และหินปูนสะสม
ไม่มีลวดหรือเหล็กที่อาจระคายเคืองในช่องปาก
ต้องมีวินัยในการใส่ถาดจัดฟัน วันละ 20-22 ชั่วโมง
อาจไม่เหมาะกับเคสที่ต้องเคลื่อนฟันระดับมาก
ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการจัดฟันโลหะ
คุณสมบัติ |
จัดฟันแบบเหล็ก |
จัดฟันแบบใส |
ความมองเห็น |
เห็นชัดเจน |
มองแทบไม่เห็น |
ความสะดวกในการใช้ชีวิต |
มีข้อจำกัดเรื่องอาหารและการทำความสะอาด |
ถอดออกได้ รับประทานอาหารและแปรงฟันได้สะดวก |
ความสบายในการใส่ |
อาจรู้สึกระคายเคืองจากเหล็กและลวด |
ไม่มีลวด ไม่ระคายเคืองเหงือกและกระพุ้งแก้ม |
ระยะเวลา |
1.5 - 2 ปี |
6 เดือน - 2 ปี (ขึ้นอยู่กับเคส) |
เหมาะสำหรับ |
ฟันเคลื่อนมาก ฟันซ้อน ฟันเก |
เคสฟันเคลื่อนเล็กน้อยถึงปานกลาง ฟันไม่ซับซ้อนมาก |
ค่าใช้จ่าย |
ต่ำที่สุด |
สูงที่สุด |
ความถี่ในการพบทันตแพทย์ |
ทุก 4 สัปดาห์ |
ทุก 4-6 สัปดาห์ |
โอกาสเกิดคราบจุลินทรีย์และหินปูน |
สูง ต้องดูแลความสะอาดดี |
ต่ำ เพราะไม่มีอุปกรณ์ติดแน่น |
การแก้ไขปัญหาฟันเคลื่อน |
ควบคุมการเคลื่อนของฟันได้ดี |
เคลื่อนฟันแบบค่อยเป็นค่อยไป |
การดูแลรักษา |
ต้องใช้ไหมขัดฟันและแปรงซอกฟันเป็นประจำ |
ทำความสะอาดง่าย ไม่มีอุปกรณ์ติดแน่น |